วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ฟัน...........บอกอายุม้า?

“เราจะรู้ได้อย่างไรว่าม้าตัวนี้อายุเท่าไร” วิธีการที่จะทราบอายุม้ามีหลายวิธี อาทิเช่น ทะเบียน หรือ บัตรประวัติของม้า หรือซักประวัติจากเจ้าของที่มีการจัดการที่ดี จะเป็นการบอกอายุม้าได้อย่างแน่นอน ส่วนการประมาณอายุต่าง ๆ ของม้า สามารถดูได้จากข้อแตกต่างทั่ว ๆ ไป เช่น ม้าอายุมากกล้ามเนื้อบริเวณท้องจะมีลักษณะเหลว ม้าหนุ่มจะมีกรรไกรหนาและมนกลม และจะมีลักษณะยาวแหลมตามบริเวณขอบเมื่อม้าอายุสูงขึ้น นอกจากนี้การที่ม้ามีอายุมากขึ้น จะมีลักษณะเปลี่ยนหลาย ๆ อย่าง เช่น มีการเปลี่ยนของรูปร่างจมูก (muzzle) และใบหน้า มีขนสีเทาขึ้นรอบ ๆ ตา และขมับ มีรอยบุ๋มบริเวณตา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นลักษณะทั่ว ๆไป ซึ่งไม่แน่นอน

สำหรับการดูฟันและดูการเปลี่ยนแปลงของฟันนั้นสามารถบ่งบอกอายุม้าได้แน่นอนและใกล้เคียงมากกว่าโดยอาศัยดูจากการงอกของฟันหน้า (Incisors) เป็นวิธีที่ง่าย และสะดวก เพียงแต่ท่านเปิดปากดูฟันหน้าของม้าแล้วสังเกตุให้ละเอียดถี่ถ้วนท่านก็จะสามารถประมาณอายุม้าได้ ในช่วงอายุประมาณ 5 ปี ส่วนวิธีการดูการสึกหรือการเปลี่ยนแปลงของฟันจะสามารถบอกถึงอายุม้าที่มีอายุมากขึ้นได้ แต่ผู้ตรวจจะต้องมีความรู้และมีความชำนาญพอควร ต้องอาศัยการฝึกปฏิบัติ จะดูจากตำราอย่างเดียวไม่ได้

จำนวนและชนิดของฟันโดยปกติม้าจะมีฟันอยู่ 2 ชุด ซึ่งเหมือนกับคน คือ ฟันน้ำนม (milk teeth, temporary teeth หรือ Decidous teeth) เป็นฟันชุดแรก และฟันแท้ (permanent teeth) เป็นฟันชุดที่ 2
ฟันน้ำนมและฟันแท้มีส่วนแตกต่างกันดังนี้คือ
1. ฟันแท้มีลักษณะใหญ่กว่าและยาวกว่า
2. ฟันแท้ระหว่างรากฟันและส่วนที่ใหญ่จากเหงือก คือ คอฟัน จะมีลักษณะกว้างกว่าฟันน้ำนม
3. ฟันแท้จะมีร่องตั้งฉากและขนานกับขอบของฟันตัดด้านหน้า
4. ฟันแท้จะมีสีเข้มกว่าฟันน้ำนม
5. ส่วนโค้งของตัวฟันแท้จะแบนน้อยกว่า



ฟันของม้าจะมีฟันชนิดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ฟันหน้า (Incisor teeth) มี 12 ซี่ เป็นฟันบน 6 ซี่ ฟันล่าง 6 ซี่ ฟันหน้ากึ่งกลางเรียกว่า ฟันตัดกลาง (Central incisor) คู่ต่อไปเรียกว่าฟันตัดข้าง (Lateral / Intermediate incisor) ส่วนคู่นอกสุดหรือคู่สุดท้ายเรียก ฟันตัดมุม (corner incisor)
2. ฟันเขี้ยว (canine หรือ tush) ในตัวเมียเขี้ยวอาจจะงอกขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆ เท่านั้น หรือไม่มีเลย ส่วนตัวผู้จะงอกออกมาข้างละ 1 เขี้ยว ทั้งบนและล่าง เป็นฟันถาวร
3. Wolf teeth มีลักษณะเป็นตุ่มฟันเล็กๆ เกิดขึ้นหน้าฟันกรามคู่แรก (premolar of milk teeth) wolf teeth มีโอกาสพบที่กรามบน ไม่ค่อยพบในกรามล่าง โดยทั่วไปจะมีการหลุดออกมาพร้อมกับฟันกรามน้ำนม (milk premolar) ซี่ที่ 2 และไม่มีการงอกขึ้นมาใหม่อีก แต่ก็มีบางตัวที่ยังคงเหลืออยู่ต่อไป
4. ฟันกราม (Premolar and Molar teeth) หรือ ฟันบด (grinders) มีทั้งหมด 24 ซี่ เป็นฟันบน 12 ซี่ และฟันล่าง 12 ซี่ อยู่ทางด้านหลังของ Interdental space
ในตัวผู้ เมื่อฟันแท้ขึ้นครบ จะมี 40 ซี่ หรือ 42 ซี่ ซึ่งประกอบด้วยฟันหน้า 12 ซี่, เขี้ยว 4 ซี่, ฟันกราม 24 ซี่ หรือ 26 ซี่
ส่วนตัวเมียจะมีฟันแท้ทั้งหมด 36 ซี่ หรือ 38 ซี่ ส่วนที่ไม่มี คือเขี้ยว 4 ซี่



ส่วนต่าง ๆ ของฟันหน้าที่จะนำมาประกอบในการทายอายุคือ
1. Infundibulum (cup) เป็นหลุมหรือช่องสีดำจะตื้นและในที่สุดจะหายไป (ภาพที่ 3) ใช้ประกอบในการทายอายุช่วง 6-8 ปี ฟันที่จะถือว่าหลุมหายไปจะต้องมีลักษณะ “Level” Level tooth หมายถึงฟันที่ลึกไปจนเกิดเห็นรอยสีเหลืองของ dentine แยกวงนอกและวงในของ enamel

2. รูปร่างของผิวบดของฟัน (occlusal surface หรือ table surface) ในฟันหน้าที่อายุน้อยผิวบดของฟันจะไปตามแนวหน้าตัดตามขวางของลำตัว และมีรูปร่างกลมรี ส่วนฟันที่สึกไปแล้วมันจะมีลักษณะเป็นลูกบาศก์และจะกลม ฟันล่างจะกลมเมื่ออายุประมาณ 10 ปี และจะเป็นรูปสามเหลี่ยมโดยจะมีฐานของสามเหลี่ยมอยู่ทางผิวฟันด้านหน้าด้านรีมฝีปากเมื่ออายุ 15 ปี และเมื่ออายุ 20 ปี จะมีรูปร่างกระสวย

3. Galvayne’s groove เป็นร่องสีเหลืองตามยาวฟันบนผิวข้างหน้า ฟันด้านริมฝีปากของฟันตัดมุมบนซี่ที่ 3 ร่องนี้จะเห็นที่ใกล้เหงือกเมื่ออายุประมาณ 10 ปี และจะลงมาถึงประมาณกลางฟันเมื่ออายุ 15 ปี และจะลงมาถึงปลายล่างติดกับผิวบดของฟันเมื่ออายุ 20 ปี และมันจะออกห่างจากเหงือกมาตรงระดับกึ่งกลางฟันเมื่ออายุ 25 ปี และจะหายไปจากฟันเมื่ออายุ 30 ปี ดังนั้น สรุปได้ว่าร่องนี้ออกมาจากเหงือกจนเต็มฟันใช้เวลา 10 ปี (อายุตั้งแต่ 10-20 ปี) และจะถอยห่างออกจากเหงือกจนหายไปจากฟันกินเวลา 10 ปี เช่นกัน (อายุตั้งแต่ 20-30 ปี)



4. มุมมองฟันหน้าบนและล่างที่บรรจบกัน มันจะมีลักษณะเป็นมุมแหลมมากขึ้นเมื่อม้ามีอายุมากขึ้น

5. ภาพด้านหน้าของฟันม้า ฟันหน้าของฟันม้าอายุน้อยจะเบนห่างออกจากแนวกลาง ส่วนในม้าที่มีอายุมากจะเบนเข้าหาแนวกลาง

6 แนวกระดูกรามตรงฟันหน้า ในม้าอายุน้อยแนวนี้จะโค้งและในม้าอายุมากจะมีลักษณะตรง

ระยะที่ 1 ดูการงอกของฟันน้ำนม
2-4 วัน ฟันน้ำนมคู่กลาง Temporary central incisors งอก
4-6 อาทิตย์ ฟันน้ำนมคู่ถัดมา Temporary lateral incisors งอก
6-10 เดือน ฟันน้ำนมคู่มุม Temporary corner incisors งอก
1 ปี ส่วน Crown ของ Temporary central incisors เริ่มสึก
1 1/2 ปี ส่วนของ Crown ของ Temporary corner incisors
ระยะที่ 2 ดูการหลุดของฟันน้ำนม และการงอกของฟันแท้งอกแทน
2 1/2 ปี Temporary central incisor หลุด central incisor งอกแทน
3 1/2-4 ปี Temporary Lateral incisor หลุด later incisor งอกขึ้นแทน
4 1/2-5 ปี Temporary corner incisor หลุด corner incisor งอกขึ้นแทน
5 ปี มีเขี้ยวงอก (ตัวเมียเขึ้ยวเป็นตุ่มเล็ก ๆ ตัวผู้เขี้ยวจะยาว)ส่วน corner incisor มีลักษณะ ขอบหลังยังไม่จดกัน ฟันทุกซี่จะมีร่องฟันใหญ่และลึกแต่ละ cup ของ central จะตื้น ระยะนี้เรียกว่า ‘Full mouth”


ระยะที่ 3 ดูจากขนาดและรูปร่างของ cup ในฟันล่าง
6 ปี cup of central ทางใน
7 ปี cup of lateral ตื้นขึ้นหรือทางใน , 7- year hook (noteb) จะทำที่ upper corner
8 ปี Cup of corner ตีบมากมีลักษณะกลม , central จะลักษณะ เป็นรูปสามเหลี่ยม enamel ring จะอยู่ด้านหลังของฟัน และมี dental star อยู่ทางด้านหน้า lateral จะมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม และมี central star และจะมี Gylvayne’s grooveที่ upper corner crown ของฟันจะยาว และทำมุมตั้งกับฟันล่าง (angle of incidence)
ระยะที่ 4 ม้าอายุมาก (การทำนายอายุดูค่อนข้างยาก)
10-12 ปี Gylvayne’s groove เห็นชัดเจน, เป็นรูปสามเหลี่ยม enamel ring เล็กลงและกลมขึ้น และอยู่ด้านหลังของฟัน, Dental star จะแคบเข้าแต่เห็นชัด และอยู่ตรงกลางฟันมากขึ้น
13-17 ปี Enamel ring จะหายไป ,อายุ 15 ปี Gylvayne’s groove จะเลื่อนลงไปทั้งส่วนของ cupper cornor ประมาณครึ่งทางระหว่างขอบเหงือกและขอบล่างของฟัน crow จะยาวไป Angle of incisor จะทำมุมแคบลง
17-20 ปี Enamel ring ทางใน , dental star ใหญ่และเห็นชัดขึ้น อยู่ตรงกลางฟัน, angle of incisor จะยิ่งแคบขึ้น อายุ 20 ปี Galoayne’s goove จะยาวตลอดฟัน พื้นผิวฟันจะเรียบ และเป็นรูปสี่เหลี่ยม แบ่งร่องระหว่างพื้นที่ระดับพื้นผิวฟันจะห่างกันมากขึ้น
20 ปีขึ้นไป ส่วน crown จะสั้นลง , Galvayne’s goove ตรงส่วนที่ติดขอบเหงือกจะเริ่มจางหายไป และจะหายไปหมดเมื่ออายุประมาณ 30 ปี



โดยสรุป จะพบว่าการประเมินอายุม้าโดยการดูจากฟันจะต้องเข้าใจถึงลักษณะทางกายวิภาคของฟัน การงอกของฟันน้ำนม และฟันแท้ ลักษณะการสึกของฟัน ซึ่งการดูการสึกของฟันนั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่จะต้องดูประกอบด้วยเช่น นิสัยของม้าว่าชอบกัดแทะหรือไม่ ลักษณะของการให้อาหารถ้าปล่อยให้แทะเล็มหญ้าฟันก็อาจมีการสึกได้มากเพราะอาจจะมีการกัดแทะโดนกรวดหรือเศษหินได้ เป็นต้น ในการประเมินอายุม้าจะมีความเม่นยำมากในช่วงอายุ 5 ปีซึ่งจะดูการงอกของฟันน้ำนมและฟันแท้ ส่วนในช่วงหลังจาก 5 ปี ขึ้นไปจะดูจากการสึกของฟันซึ่งจะค่อนข้างยากและต้องอาศัยประสบการณ์ในการดูบ่อยๆ และจะพบว่าความแม่นยำจะน้อยลงไม่เหมือนกับในช่วง 5 ปีแรก

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

คอกม้านั้นสำคัญไฉน

คอกม้า เป็นสิ่งสำคัญในอันดับต้นๆในการตัดสินใจเริ่มต้นที่จะเลี้ยงม้า ถ้าท่านเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดจะหาม้ามาเลี้ยงซักตัว ก็ควรจะมีบ้านให้แก่ม้าที่คุณต้องการจะเอาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เพื่อนๆหลายคนเคยปรึกษาผมว่าจะหาซื้อม้าได้ที่ไหน จซื้อม้าพันธุ์อะไรดี แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงสิ่งแรกคือ คอกม้า

คอกม้า เปรียบเสมือนบ้านหลังหนึ่งของม้าเป็นที่ ที่ม้าใช้ชีวิตส่วนหนึ่งอยู่ในนั้น อันจะป้องกัน แสงแดด สายลม และพายุฝน เป็นที่กิน ที่นอน และสุขาอยู่ในตัว บ้านของเรายังมีการจัดสรรห้องครัว ห้องนอน หน้องน้ำแยกออกจากกัน แต่ม้าล่ะ เราจะจัดการให้เค้าอยู่อย่างไร

หลังคาคอกม้าก็มีความสำคัญไม่ต่างจากหลังคาบ้านของเรา วัสดุในการทำหลังคานั้นมีมากมายหลายชนิด กลุ่มแรกเป็นวัสดุชั่วคราว อันได้แก่ หญ้าแฝก หญ้าคา ตับจาก และผ้าใบ วัสดุกลุ่มนี้เป็นวัสดุที่มีราคาค่อนข้างต่ำ ระบายความร้อนค่อนข้างดี แต่อายุการใช้งานสั้น มักเกิดปัญหารั่วซึมในฤดูฝน ในบางฟาร์มที่ใช้หญ้าคาแล้วความสูงของหลังคาต่ำกว่า 2.5 เมตร ม้ามักจะยืดคอไปเล็มชายคา ซึ่งจะเป็นอันตรายถ้าม้าเคี้ยว เชือก หรือลวดเข้าไปด้วยจะทำให้เกิดการสะสมของสิ่งแปลกปลอมในกระเพาะ อันตรายกว่านั้นลวดอาจทะลุกระเพาะทำให้ม้าตายได้

กลุ่มสองได้แก่ สังกะสี กระเบื้อง และเมททัลชีท เป็นวัสดุที่มีความทนทานตามลำดับ สังกะสี ราคาไม่สูงนักน้ำหนักเบาทำให้ประหยัดโครงสร้างของหลังคาลงไปได้ แต่สังกะสีก็มีข้อเสียที่เราๆทราบกันดี คือจะสะสมความร้อนใต้หลังคาในเวลากลางวัน สามารถฉีกขาดได้ถ้าหากมีพายุลมแรง กระเบื้องป้องกันความร้อนได้ดี แต่มีราคาแพง น้ำหนักมาก โครงสร้างใต้หลังคาจะต้องมั่นคงแข็งแรง เมททัลชีทเป็นวัสดุที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากติดตั้งง่ายสามารถสั่งความยาวได้ตลอดแนวหลังคา ป้องกันความร้อนได้ดี


ผนังกั้นระหว่างคอกควรมีลักษณะทึบเพื่อป้องกันไม่ให้ม้าทำร้ายกันเองระหว่าคอกขอเล่าประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับม้าผมเอง ที่ฟาร์มผมจะมีคอกพ่อม้าเป็นคอกโปร่งกั้นด้วยท่อเหล็ก แข็งแรงดี อยู่มาวันหนึ่งมีม้าตัวเมียเป็นสัด มุดหัวเข้าไปช่องว่างระหว่างท่อเหล็ก ถูกพ่อม้าเตะเข้ากลางหว่างคิ้ว เหนือหัวตามานิดหน่อย ปรากฎว่ากระโหลกแตก อยู่มาได้ไม่นานก็ตายลง

ส่วนจะสร้างด้วยวัสดุไม้ราคาค่อนข้างสูงตามแต่เนื้อไม้ที่เรานำมาสร้าง ไม้เนื้ออ่อนอาจจะไม่ทดแดดฝน ไม้ที่นำมาทำคอกควรจะขัดให้เรียบไม่มีเสี้ยน เก็บหัวตะปูให้เรียบร้อย อาจทำให้เกิดบาดแผลต่อม้าได้ ม้าบางตัวที่มีนิสัยกัดคอกก็จะแทะทำลายคอกม้าได้

กำแพงที่ก่อด้วยปูนควรเทเอ็นเพื่อเสริมความแข็งแรงแล้วฉาบให้เรียบร้อย ก็จะแข็งแรงทนทานนานปี กันแดดกันฝนสาดได้ดี

พื้นคอกควรเทปูน เพื่อล้างและทำความสะอาดได้ดี มีร่องน้ำท้ายคอกระบายน้ำออกสู่บ่อพักน้ำเสีย วัสดุปปูรองมีหลากหลายให้เลือกทั้ง ทราย ขี้เลื่อย แกลบ ซังข้าวโพดบด ตามความสะดวก ควรเปลี่ยนวัสดุปูรองเมื่อเห็นว่าสกปรก การจัดการในฟาร์มผมจะเติมวัสดุปูรองเพิ่มทุกสัปดาห์ พอ 4 สัปดาห์ ก็จะขนออกไปทำปุ๋ยทั้งหมดแล้วล้างทำความสะอาดคอก

ขนาดของคอกม้ายิ่งกว้างก็ยิ่งดีครับ ควรจะมีความกว้าง 3 เมตร และความยาว 3 เมตรเป็นอย่างน้อย ถ้าท่านเลี้ยงม้าขนาดใหญ่เช่น ม้าวอร์มบลัด ม้าโธโรเบรท(ม้าแข่ง) ก็ควรจะขยายความกว้างอีก ถ้าท่านทำคอกแฝดหันหน้าเข้าหากัน ก็เว้นที่ว่างหน้าคอกประมาณ 3 เมตร เพื่อให้รถกระบะสามารถผ่านได้ก็จะทำงานได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องให้อาหารหรือทอดหญ้า

สุดท้ายคอกม้าที่ดีจะต้องสะอาด แห้ง อากาศถ่ายเทสะดวก ควรมีห้องเก็บอาหารและหญ้าแห้งเป็นสัดส่วน ห้องเก็บอุปกรณ์ขี่ม้า และเวชภัณฑ์ที่จำเป็น ไม่มีเหลี่ยมมุมหรือสิ่งแหลมคมที่จะทำอันตรายกับตัวม้าได้ เท่านี้ม้าที่ท่านรัก ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหม่ได้อย่างมีความสุข สวัสดีครับ


แนะนำตัว


ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Korat Horseman